GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศเพียง 50 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่เกษตร 24 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 10 จุด พื้นที่เขตสปก. 10 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 3 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 2 จุด และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ #ฉะเชิงเทรา 6 จุด #กำแพงเพชร 4 จุด และ #ชัยนาท 3 จุด ตามลำดับ จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนเกิดขึ้นเบาบางทั้งในและนอกประเทศ เนื่องจากมีฝนตกจากพายุฝนฟ้าคะนอง แต่ยังมีพบบ้างเล็กน้อยกระจายในบริเวณพื้นที่ภาคกลาง ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม – 24 มีนาคม 2565 พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 11,723 จุด ตามด้วยภาคเหนือ 10,836 จุด และภาคกลาง 6,253 จุด ตามลำดับ
.
ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยยังคงมีค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก
.
สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน อันดับหนึ่ง คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 387 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 186 จุด และอันดับที่ 3 เป็นประเทศไทย จำนวน 50 จุด ตามลำดับ
.
ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
.
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th
#จิสด้า #gistda #จิสด้าก้าวสู่ปีที่22 #ไฟป่า #หมอกควัน #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ
#จุดความร้อน #THEOS2 #คุณภาพอากาศ #ค่าฝุ่นละออง #ฝุ่นพิษวิกฤติชาติ #รู้สู้ภัยพิบัติ