GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) วันที่ 16 มีนาคม 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 336 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่เกษตร 109 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 92 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 73 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 31 จุด พื้นที่เขตสปก. 24 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุดทางภาคเหนือยังคงเป็น #แม่ฮ่องสอน 54 จุด ครองแชมป์ต่อเนื่อง 6 วันติด รองลงมาเป็น #กาญจนบุรี 36 จุด และ #ชัยภูมิ 18 จุด ตามลำดับ จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนมีจำนวนลดลงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากเกิดฝนตกจากพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ยังพบจุดความร้อนกระจายตัวเหมือนวานก่อน นำโดยภาคกลาง 116 จุด ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม – 16 มีนาคม 2565 พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 11,420 จุด ตามด้วยภาคเหนือ 9,559 จุด และภาคกลาง 5,837 จุด ตามลำดับ
ส่วนเช้าวันนี้เวลา 09.00 น. หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ มีค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อยู่ในระดับปานกลางผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอาจต้องระวังเป็นพิเศษ ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) แม่ฮ่องสอนพบค่าสูงที่ระดับ 137 ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ
.
สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ครองแชมป์ต่อเนื่องวันที่ 18 ซึ่งวันนี้พบมากถึง 7,068 จุด สูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี รองลงมาอันดับ 2 เป็นประเทศไทย จำนวน 337 จุด และอันดับที่ 3 ราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 201 จุด ตามลำดับ ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามา ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ
.
ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
.
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th
#จิสด้า #gistda #จิสด้าก้าวสู่ปีที่22 #ไฟป่า #หมอกควัน #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ
#จุดความร้อน #คุณภาพอากาศ #ค่าฝุ่นละออง #ฝุ่นพิษวิกฤติชาติ #รู้สู้ภัยพิบัติ