จุดความร้อน เหนือ ตะวันตก มากสุด..!!
GISTDA เผยข้อมูลภาพจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 พบจุดความร้อนทั้งประเทศมากถึง 3,057 จุด โดยพบมากสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,438 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,004 จุด พื้นที่เกษตร 247 จุด พื้นที่เขต สปก. 203 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่น ๆ 154 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 11 จุด
จากข้อมูลภาพดาวเทียมจะเห็นได้ว่าจุดความร้อนที่เกิดขึ้นยังคงหนาแน่นอยู่ที่ภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ โดยมีจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากเป็นอันดับต้นๆดังนี้
จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 388 จุด โดยพบมากในพื้นที่ป่าอนุรักษ์สูงถึง 300 จุด
จังหวัดลำปาง จำนวน 311 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 183 จุด
จังหวัดตาก จำนวน 265 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 159 จุด
จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 228 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 110 จุด
จังหวัดแพร่ จำนวน 188 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 122 จุด ตามลำดับ
สาเหตุการเกิด...ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เกษตร เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่และเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร ส่วนบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็พบเห็นจุดความร้อนเช่นกันกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ สำหรับภาคตะวันออกและภาคใต้วานนี้พบจุดความร้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนสถานการณ์ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยกำลังลมค่อนข้างอ่อนจึงส่งผลให้ฝุ่นละอองเกิดการสะสมตัวกันในหลายพื้นที่ ยกเว้น..!! บริเวณพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลที่มีกำลังลมอ่อนไปจนถึงปานกลางในบางพื้นที่ทำให้สถานการณ์ฝุ่นค่อนข้างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี
สำหรับสถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านก็ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องแชมป์เมื่อ 2-3วันที่ผ่านมาเป็นประเทศไทย วานนี้เปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์สูงถึง 4,976 จุด รองลงมาเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 857 จุด และราชอาณาจักรกัมพูชา 532 จุด ทำให้มีจุดที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษคือบริเวณชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและตากในเรื่องหมอกควันข้ามแดน อย่างไรก็ตามประชาชนในพื้นที่ควรเฝ้าระวังในเรื่องคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเพราะอาจส่งผลต่อโรคระบบทางเดินหายใจได้
ทั้งนี้ GISTDA ยังติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://fire.gistda.or.th
