Head GISDTDA

จุดความร้อนไทยวานนี้ลดลงเกือบครึ่งจากวันก่อนเหลือเพียง 678 จุด ส่วนป่าอนุรักษ์ยังคงพบจุดความร้อนสูงสุด 246 จุด ค่าฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือยังเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนกว่า 200 ไมโครกรัม

   GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 9 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อน 678 จุด ในขณะที่เมียนมาร์ยังนำอยู่ที่ 8,358 จุด, สปป.ลาว 2,516 จุด, กัมพูชา 290 จุด, เวียดนาม 128 จุด และมาเลเซีย 27 จุด 

   จุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุด 246 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 239 จุด, พื้นที่เกษตร 117 จุด, พื้นที่เขต สปก. 40 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 27 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ #เชียงราย 112 จุด, #แม่ฮ่องสอน 96 จุด, #เชียงใหม่ 83 จุด สำหรับเหตุผลหนึ่งที่ทำให้วานนี้พบจุดความร้อนในภาพรวมลดลงเป็นเพราะช่วงวันที่ 8-9 เมษายนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงแต่ยังคงตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่ป่าเป็นหลัก

   ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เช้าวันนี้ก็ทางภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วงมากเช่นเคย เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมาพบหลายจังหวัดมีค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับสีแดงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่จังหวัด #แม่ฮ่องสอน 243 ไมโครกรัม ตามด้วย #เชียงราย 190 ไมโครกรัม #เชียงใหม่ 189 ไมโครกรัม นอกจากนี้ยังมีที่ #ลำพูน #น่าน #พะเยา #ลำปาง #แพร่  เป็นต้น ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพมหานครพบค่าคุณภาพอากาศของทุกเขตอยู่ในระดับดี

   สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ

   ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

 อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

amorn.pet 10/4/2566 0
Share :

บทความที่เกี่ยวข้อง