ข้อมูลภาพจากดาวเทียมฮิมาวาริ (Himawari) และดาวเทียมอื่นๆ ของระบบการติดตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ของวันที่ 3 เมษายน 2564 เวลา 09.00 น. พบว่าพื้นที่ของภาคเหนือ มีค่าคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง-แดงเข้ม) เกือบทั่วทั้งภาค โดยเฉพาะในพื้นของจังหวัด #เชียงราย ที่พบค่า AQI สูงถึง 381 รองลงมา AQI 163 ในพื้นที่ของ #เชียงใหม่ และ AQI 121 ที่ #แม่ฮ่องสอน ตามลำดับ ส่วนพื้นที่พบค่า AQI ต่ำสุด 29 อยู่ที่ #เพชรบูรณ์ สาเหตุส่วนหนึ่งที่ภาคเหนือยังคงมีค่าคุณภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเป็นผลมาจากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้น ประกอบกับลมที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อน ทำให้การสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันมีมาก
สำหรับค่าคุณภาพอากาศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบค่าคุณภาพอากาศปานกลาง (สีเหลือง) สลับกับคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) กระจายตัวอยู่ในบางพื้นที่ โดยพบค่า AQI มากที่สุด 65 อยู่ที่จังหวัด #บึงกาฬ ส่วนของค่า AQI ต่ำสุด 20 ในพื้นที่ของจังหวัด #นครราชสีมา ส่วนในภูมิภาคอื่นๆ มีการสะสมของฝุ่นละอองเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะ บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ พบคุณภาพอากาศค่อนข้างดีหลายพื้นที่
GISTDA ใช้ข้อมูลภาพจากดาวเทียมฮิมาวาริ (Himawari) และดาวเทียมอื่นๆ ของระบบการติดตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ติดตามสถานการณ์ PM2.5 ของวันที่ 3 เมษายน 2564 เวลา 15.00 น.
พบว่าพื้นที่ทางภาคเหนือ ยังปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง-สีแดงเข้ม) เกือบทั่วทั้งภูมิภาค โดยพื้นที่ 3 อันดับทางภาคเหนือที่พบค่า AQI สูงเกินมาตรฐาน ได้แก่ อำเภอแม่สาย #เชียงราย AQI 370 อำเภอแม่แจ่ม #เชียงใหม่ AQI 195 และ อำเภอเมือง #แม่ฮ่องสอน AQI 148 แอดมินขอส่งความห่วงใยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ส่วนในภูมิภาคอื่นๆ มีการสะสมของฝุ่นละอองเล็กน้อยถึงปานกลาง
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้
ทั้งนี้ GISTDA ยังติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://fire.gistda.or.th