ต่อเนื่องจากบทความก่อนหน้านี้ได้กล่าวไปถึงความสำคัญของ #การวิจัยขั้นสูงเกี่ยวกับระบบโลกและอวกาศ (Earth Space System : #ESS) ที่มีความเชื่อมโยงและส่งอิทธิพลซึ่งกันและกันตามหลักของธรรมชาติ โดยเป็นแนวทางการศึกษาออกเป็น 3 แนวทาง ได้แก่ Extreme Nature Resilience, Space Impact on Earth และ Deep Space Exploration & Space Utilization เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
จากการระดมความคิดเห็นของ #ประชาคมวิจัยด้านระบบโลกและอวกาศ เพื่อกำหนดและวางรากฐานการวิจัยภายใต้แนวทางการศึกษาทั้ง 3 นั้น มีวิทยาศาสตร์ขั้นสูงทั้งหมด 7 ศาสตร์ อันจะเป็นพื้นฐานองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะต่อยอดให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และนำไปสู่การส่งเสริมการพัฒนาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะทางด้านอุตสาหกรรมอวกาศของไทย
การศึกษาสภาพขั้วโลกเพื่อเฝ้าตรวจการเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งที่ขั้วโลกอันจะส่งผลกระทบถึงระดับน้ำในมหาสมุทร และด้วยการที่ไร้สิ่งรบกวนในภูมิภาคนี้ ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลสภาพอากาศในอดีตของโลกไว้อีกด้วย นับว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญต่อความเข้าใจระบบของโลกอีกด้านหนึ่ง
.
จากทั้งหมด 7 องค์ประกอบ เป็นภาพกว้างที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดของงานวิจัยภายใต้ ESS ซึ่ง #แต่ละธีมนั้นยังมีความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน อาทิ การศึกษาสภาพความเป็นกรดของมหาสมุทรอาจจะต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจจาก Biogeochemistry หรือการศึกษาภัยพิบัติแผ่นดินไหวอาจจะต้องการข้อมูลจากสภาพประจุบนชั้นบรรยากาศโลก ณ ขอบอวกาศ
ปรากฏการณ์แสงสีเขียวที่ทำเอาชาวบานแตกตื่นเนื่องจากเสียงคล้ายระเบิดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูนช่วงค่ำของวันที่ 22 มิถุนายนนั้น ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัตถุอวกาศแบบไม่คาดคิด ซึ่งนี่อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวอีกมากมายที่ยังไม่มีการค้นพบในห้วงอวกาศ ดังนั้นแล้ว การวางรากฐานเพื่อการพัฒนาสู่องค์ความรู้ใหม่และนำมาประยุกต์ใช้กับสังคมในบริบทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโลกในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามาแล้วระดับหนึ่ง
ประกอบกับการรวมกลุ่มกันของ #ประชาคมวิจัยด้านระบบโลกและอวกาศ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านต่างหน่วยงาน ต่างองค์กร ต่างความสามารถมารวมตัวกัน จะเป็นการทำงานที่เกื้อหนุนกันเพื่อวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาให้ประเทศชาติจากองค์ความรู้ของคนไทยเป็นสำคัญ
ในโอกาสนี้ #GISTDA ได้ร่วมกับ #ประชาคมวิจัยด้านระบบโลกและอวกาศของประเทศไทย ได้ร่วมกันจัด #งานประชุมวิชาการและการสัมมนานานาชาติการวิจัยขั้นแนวหน้าระบบโลกและอวกาศแห่งประเทศไทย (The 1st International Symposium on Earth Space System Frontier Research Thailand 2021) ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 โดยสามารถรับชมผ่านทางออนไลน์ทาง Facebook : TNN ช่อง16 และ GISTDA ตั้งแต่เวลา 8:30 น. เป็นต้นไป
ภายในการประชุมพบกับปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “#บทบาทของ #อว. #ในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ #เพื่อสร้างโอกาสให้เศรษฐกิจไทย” โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ มาร่วมอัพเดทการเตรียมการเพื่อรองรับ Earth Space System Frontier Research ของประเทศไทย
#เพราะอวกาศเป็นพื้นที่แห่งโอกาส การใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ #ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม ในทุกๆด้านไปพร้อมๆกันทั้งบุคลากร องค์ความรู้ แผนงาน โครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงแนวความคิด เพื่อให้เกิดศักยภาพสูงสุดในการ #นำคุณค่าจากอวกาศเพื่อพัฒนาสังคมไทย
อ้างอิง สมุดปกขาว Earth Space System Frontier Research การวิจัยขั้นแนวหน้าระบบโลกและอวกาศ โดยประชาคมวิจัยด้านระบบโลกและอวกาศ
#จิสด้าก้าวสู่ปีที่21 #จิสด้า #GISTDA #งานวิจัยขั้นสูง #ระบบโลก #อวกาศ #คุณค่าจากอวกาศ #นโยบายอวกาศประเทศไทย